แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับการแจ้งเรื่องร้องเรียน แจ้งเบาะแสการทุจริต
และการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนหรือการดำเนินคดีกับบุคคลภายนอก

     บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้กำหนดแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ซึ่งอาจเกิดขึ้น 

  •   เมื่อท่านได้แจ้งเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ รวมถึงแจ้งเบาะแสการทุจริตแก่เรา 
  •   เมื่อท่านได้รับการติดต่อจากบริษัท เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนซึ่งบุคคลอื่นได้แจ้งไว้ 
  •   เมื่อท่านกระทำการอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ไม่ว่าจะเป็นการกระทำต่อทรัพย์สิน หรือชื่อเสียงของบริษัท

     ตลอดจนเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อบริษัท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล     
     เมื่อมีการแจ้งเรื่องร้องเรียน หรือแจ้งเบาะแสการทุจริตมายังบริษัท บริษัทอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 

ข้อที่

วัตถุประสงค์

ฐานทางกฎหมาย

1.1

เพื่อการติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อร้องเรียนที่ท่าน หรือบุคคลอื่นได้แจ้งไว้กับเรา 

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)

1.2

เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ   ทั้งการดำเนินการตามกระบวนการภายในของบริษัท เช่น การพิจารณาดำเนินการ การตรวจสอบข้อเท็จจริง การแสวงหาข้อเท็จจริง การสืบสวนหาข้อเท็จจริง หรือการสอบสวนทางวินัย การจัดเก็บเป็นบันทึกผลการดำเนินการ การเก็บและใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการ รวมถึงเพื่อการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน และการดำเนินการตามกระบวนการภายในอื่น ๆ ของบริษัท รวมถึงการดำเนินการเพื่อการจัดการเรื่องร้องเรียนตามที่หน่วยงานภายนอก เช่น หน่วยงานกำกับดูแลแจ้งมา

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย(Legitimate Interests)

1.3

เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย และการดำเนินคดีต่าง ๆ รวมถึงเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี (หากมี) กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)

การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)

1.4

เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการหรือองค์กรใด ๆ ตามกฎหมาย หรือตามคำสั่งศาล 

การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)

     ในกรณีที่ท่านเป็นบุคคลภายนอก ซึ่งมิใช่พนักงาน คู่ค้า หรือบุคคลซึ่งมีธุรกรรมเกี่ยวข้องกับบริษัท และได้กระทำการใด ๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยอาศัยฐานทางกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้         

ข้อที่

วัตถุประสงค์

ฐานทางกฎหมาย

1.5

เพื่อการติดต่อสอบถาม การนัดหมาย หรือการติดต่อใด ๆ รวมถึงการแจ้งให้ท่านยุติการกระทำการอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท หรือยุติข้อพิพาท 

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)

1.6

เพื่อการดำเนินการตามกระบวนการภายในของบริษัท เช่น การพิจารณาดำเนินการ การตรวจสอบข้อเท็จจริง การแสวงหาข้อเท็จจริง การสืบสวนหาข้อเท็จจริง หรือการสอบสวนทางวินัย การจัดเก็บเป็นบันทึกผลการดำเนินการ การเก็บและใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการ รวมถึงเพื่อการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน และการดำเนินการตามกระบวนการภายในอื่น ๆ ของบริษัท

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)

1.7

เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย และการดำเนินคดีต่าง ๆ รวมถึงใช้เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี (หากมี) กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย

ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)

การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)

1.8

เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการหรือองค์กรใด ๆ ตามกฎหมาย หรือตามคำสั่งศาล 

การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
     ในกรณีที่ท่านเป็นผู้แจ้งเรื่องร้องเรียน หรือเบาะแสการทุจริต โดยทั่วไปแล้ว บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผ่านแบบฟอร์ม หนังสือ หรือเอกสารต่าง ๆ ที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้กับเราหรือด้วยวิธีการอื่น ๆ ซึ่งเป็นการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีบางกรณีที่เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่นด้วย เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยสาธารณะในเว็บไซต์ (เช่น เว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือเว็บไซต์ของ ป.ป.ช. เป็นต้น) หรือข้อมูลที่สามารถขอคัดถ่ายสำเนาได้จากหน่วยงานราชการ หรือ     ในกรณีที่ท่านส่งเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานกำกับดูแลของบริษัท หรือหน่วยงานอื่น บริษัทอาจได้ข้อมูลของท่านต่อมาจากหน่วยงานเหล่านั้น หรือ บริษัทอาจได้รับข้อมูลของท่านมาจากการที่ท่านถูกอ้างถึงในข้อร้องเรียนของบุคคลอื่น เป็นต้น
ในกรณีที่ท่านเป็นบุคคลภายนอก ซึ่งมิใช่พนักงาน คู่ค้า หรือบุคคลซึ่งมีธุรกรรมเกี่ยวข้องกับบริษัท และได้กระทำการใด ๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยการขอข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากท่านโดยตรง หรืออาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น การสอบถามจากผู้เห็นเหตุการณ์ การเก็บรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ที่เปิดเผยสาธารณะ หรือข้อมูลที่สามารถขอคัดถ่ายสำเนาได้จากหน่วยงานราชการ เป็นต้น
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมมีดังต่อไปนี้
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
     (1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ นามสกุล เป็นต้น
     (2) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล Facebook LINE ID หรือ Social media account อื่น ๆ เป็นต้น
     (3) ข้อมูลอื่น ๆ เช่น อาชีพ สถานที่ทำงาน ตำแหน่ง รายละเอียดข้อร้องเรียน รายละเอียดการกระทำอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท เป็นต้น
     (4) ข้อมูลสถานะทางการเงิน ข้อมูลสถานะการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลทรัพย์สินของบุคคล (เช่น การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินก่อนเข้ารับตำแหน่ง) และข้อมูลการถือหุ้น (เฉพาะกรณีที่ข้อร้องเรียนของท่านเกี่ยวข้องกับข้อมูลดังกล่าว หรือ บริษัทจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมาย)
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
     ในการแจ้งเรื่องร้องเรียน หรือเบาะแสการทุจริตต่าง ๆ นั้น โดยทั่วไป บริษัทไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ศาสนา เชื้อชาติ เป็นต้น ของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ ท่านไม่จำเป็นต้องระบุ หรือกล่าวถึงข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ข้อร้องเรียนบางประเภทซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้สิทธิเรียกร้องต่อ บริษัท เช่น เรียกร้องให้ บริษัทชดใช้ค่าเสียหาย ค่าสินไหนทดแทนต่าง ๆ เป็นต้น ท่านอาจจำเป็นจะต้องให้ข้อมูลที่มีความข้อมูลละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ เป็นต้น ประกอบมาด้วย ในกรณีเช่นนี้ บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่านเพื่อประกอบการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากเราจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ นอกจากนี้เราจะขอความยินยอมจากท่านก่อน (หากจำเป็น)
     ในกรณีที่ท่านเป็นบุคคลภายนอก ซึ่งมิใช่พนักงาน คู่ค้า หรือบุคคลซึ่งมีธุรกรรมเกี่ยวข้องกับบริษัท และได้กระทำการใด ๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เท่าที่จำเป็นเพื่อประกอบการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากเราจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ นอกจากนี้เราจะขอความยินยอมจากท่านก่อน (หากจำเป็น)
     โดยทั่วไปแล้ว บริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บริษัท ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัทดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ บริษัทจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น

3. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
     บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในแบบแจ้งฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของบริษัท

4. การเปิดเผยข้อมูล

     ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้
     4.1 หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยอันเนื่องมาจากมีกฎหมายกำหนดหน้าที่ให้บริษัท จะต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว หรือหน่วยงานดังกล่าวร้องขอโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นต้น และรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลแก่เจ้าพนักงานของรัฐซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ตำรวจ เป็นต้น
     4.2 หน่วยงานกำกับดูแลของบริษัท เช่น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น ในกรณีที่หน่วยงานดังกล่าวมีอำนาจตามกฎหมายในการขอข้อมูล หรือในกรณีที่หน่วยงานดังกล่าวส่งเรื่องร้องเรียนมาให้บริษัทพิจารณา
     4.3 หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวน ไต่สวน หรือดำเนินคดีตามกฎหมาย เช่น ตำรวจ เจ้าพนักงานอัยการ ศาล เป็นต้น
     4.4 ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใด ๆ ตามที่บริษัทมอบหมาย เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัทประกันภัย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากท่านเป็นผู้ร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสการทุจริต หรือเป็นพยานตามเรื่องร้องเรียนดังกล่าว บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า เราจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นความลับตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของเรา และจะไม่เปิดเผยข้อมูลให้กับบุคคลที่ไม่เกี่ยวกับการบริหารจัดการเรื่องดังกล่าว ในกรณีที่เราจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เราจะปฏิบัติตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของเรา รวมถึงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

5. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
     ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่บริษัทกำหนดในข้อ 7. หรือผ่านเว็บไซต์ของบริษัท โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับบริษัท ซึ่งสิทธิต่าง ๆ ของท่านมีรายละเอียด ดังนี้
5.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
     ในกรณีที่ บริษัทขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
5.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
     ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้
5.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
     ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทได้ตามที่กฎหมายกำหนด
5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
     ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด

5.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
     ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น บริษัทจะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
5.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
     ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด
5.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Rectification Right)
     กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่บริษัทมีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
     ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หาก บริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้

6. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งฉบับนี้
     เราอาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น เราจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัททั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านเราจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย

7. วิธีการติดต่อ
     ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ : 13/1 หมู่ 2 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2763 7999
E – Mail : compliance@gc.co.th

 ประกาศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2565