แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (Privacy Notice)
สำหรับผู้สมัครงาน บุคคลในครอบครัวของผู้สมัครงานหรือบุคคลอื่นซึ่งผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้
บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน ตลอดจนบุคคลในครอบครัวของผู้สมัครงานหรือบุคคลอื่นซึ่งผู้สมัครงานให้ข้อมูลไว้กับเรา และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราจึงได้กำหนดแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ซึ่งอาจเกิดขึ้น ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อเรา ดังต่อไปนี้
1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคล และกรณีจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้สมัครงานของเรา เราจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยอาศัยฐานทางกฎหมายต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
1.1
เพื่อดำเนินการที่จำเป็นในการพิจารณาและคัดเลือกผู้สมัครงาน ซึ่งหมายความรวมถึงขั้นตอนสมัครผ่านช่องทางการสมัครงานออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท การสมัครงานผ่านทางบริษัทโดยตรง หรือผ่านทางผู้ให้บริการจัดหางาน ขั้นตอนการสัมภาษณ์ ขั้นตอนการประเมินคัดเลือก ขั้นตอนการเสนอสัญญาจ้างงานให้แก่ท่าน และกระบวนการบริหารงานบุคคลอื่น ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาและคัดเลือกเข้าทำงานกับบริษัท
การปฏิบัติตามสัญญา
(Contractual Basis)
1.2
เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนการจ้างงานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลที่จำเป็น และตรวจสอบข้อมูลของท่านจากบุคคลอ้างอิงที่ท่านระบุ หรือ ตรวจสอบประวัติการทำงานก่อนหน้า เพื่อประกอบการตัดสินใจรับเข้าทำงานกับบริษัท และการทำสัญญาจ้างงาน
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.3
เพื่อการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายในขององค์กร
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.4
เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท และการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย รวมถึงการติดต่อขอออกบัตรเพื่อเข้าปฏิบัติงานในสถานที่ของบริษัท การแลกบัตรเข้าบริษัท การบันทึกข้อมูลการเข้าออกสถานที่ของบริษัท และการบันทึกภาพภายในอาคารหรือสำนักงาน ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
ในบางกรณีเราอาจมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลอื่น ซึ่งผู้สมัครงานของเราได้ให้ข้อมูลไว้ ทั้งนี้ บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของบุคคลเหล่านั้น โดยอาศัยฐานทางกฎหมายต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ข้อที่
วัตถุประสงค์
ฐานทางกฎหมาย
1.5
เพื่อการติดต่อสื่อสารในกรณีจำเป็น หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ตรวจสอบข้อมูลของผู้สมัครงานจากบุคคลอ้างอิงที่ระบุ หรือ ตรวจสอบประวัติการทำงานของผู้สมัครงาน ก่อนหน้า แจ้งเหตุอันตรายที่เกิดแก่ผู้สมัครงานให้ทราบ เป็นต้น
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interest)
1.6
เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท และการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย รวมถึงการติดต่อขอออกบัตรเพื่อเข้าปฏิบัติงานในสถานที่ของบริษัท เข้าออกอาคาร การบันทึกข้อมูลการเข้าออกสถานที่ และการบันทึกภาพภายในอาคารหรือสำนักงานของบริษัทด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน บุคคลในครอบครัวของผู้สมัครงาน รวมถึงบุคคลอื่น ซึ่งผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้กับเรานั้น เราอาศัยฐานทางกฎหมายประการต่าง ๆ ตามที่แจ้งไว้นี้ โดยไม่ได้อาศัยความยินยอม แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณีที่เราไม่อาจใช้ฐานทางกฎหมายเหล่านี้ได้ เช่น กรณีที่กฎหมายกำหนดให้จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive data) เป็นต้น ในกรณีเช่นนั้น บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน (โปรดอ่านเอกสารขอความยินยอมของเราเพิ่มเติมจากเอกสารนี้) และในกรณีที่ท่านเป็นผู้สมัครงาน และได้ให้ข้อมูลของบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอื่นแก่เรานั้น ท่านจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ/หรือดำเนินการขอความยินยอม (หากจำเป็น)
ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัทเก็บรวบรวมข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัทในการปฏิบัติตามสัญญาหรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว บริษัทอาจไม่สามารถทำสัญญาจ้างงานกับท่าน หรือไม่สามารถบริหารจัดการสัญญาตามวัตถุประสงค์ของการจ้างงานได้ หรืออาจมีผลต่อการได้รับสิทธิสวัสดิการ หรือการจัดการอำนวยความสะดวกให้กับท่าน
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
โดยทั่วไปแล้ว บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง เช่น การให้ท่านกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนด หรือสอบถามจากท่าน หรือขอให้ท่านส่งเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัท แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีบางกรณีที่ บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น เช่น
• บุคคลอ้างอิงที่ท่านระบุในใบสมัครงาน
• มหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาของท่าน
• ผู้ให้บริการจัดหางาน
• หน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
• หน่วยงานหรือองค์กรที่ท่านได้เคยปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวมนั้น มีดังต่อไปนี้
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
(1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส ลายมือชื่อ ภาพถ่าย
(2) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล
(3) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น เงินเดือน หมายเลขบัญชีธนาคาร
(4) ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ประวัติการทำงานและการศึกษารวมถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สถานภาพการเกณฑ์ทหาร ข้อมูลบุคคลอ้างอิง สถานภาพการสมรส ประวัติการอบรม ประวัติการฝึกงาน ใบอนุญาตขับขี่
(5) ข้อมูลระบุตัวตนของบุคคลในครอบครัว (บิดา มารดา คู่สมรส) ได้แก่ ชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ อาชีพ เป็นต้น
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
โดยทั่วไปแล้ว บริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บริษัท ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัทดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หากบริษัท ไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ บริษัทจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและใช้ ข้อมูลประวัติอาชญากรรมของผู้สมัครงาน เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนการจ้างงานตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งบริษัทสามารถประมวลผลข้อมูลดังกล่าวได้โดยอาศัยฐานทางกฎหมายที่แจ้งไว้ในข้อ 1. โดยไม่ได้อาศัยความยินยอมของท่าน ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของท่าน และจะกระทำการต่าง ๆ ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้โดยเคร่งครัด
นอกจากนี้หาก บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนอื่น ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน ทั้งนี้ บริษัทอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนี้
(1) ข้อมูลสุขภาพ
(2) ข้อมูลเกี่ยวกับความพิการ
3. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ อย่างไรก็ดี หากบริษัทยังไม่ได้พิจารณารับท่านเข้าทำงานตามตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้ บริษัทจะเก็บข้อมูลดังกล่าวของท่านเป็นเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่สมัครงาน หรือวันที่ปรับปรุงใบสมัครงานครั้งล่าสุด เพื่ออาจนำมาใช้ติดต่อท่านเมื่อมีตำแหน่งงานที่อาจจะเหมาะสมกับท่านในอนาคต
4. การเปิดเผยข้อมูล
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
5. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่บริษัท กำหนดในข้อ 7. หรือผ่านเว็บไซต์ของบริษัท โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับบริษัท ซึ่งสิทธิต่าง ๆ มีรายละเอียด ดังนี้
5.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
ในกรณีที่ บริษัทขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
5.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้
5.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับ บริษัทได้ตามที่กฎหมายกำหนด
5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
5.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น บริษัทจะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
5.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด
5.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่ บริษัทมีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หาก บริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
6. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งฉบับนี้
เราอาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น เราจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมล ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านเราจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
7. วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัท ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ : 13/1 หมู่ 2 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2763 7999
E – Mail : compliance@gc.co.th, hr_admin@gc.co.th
ประกาศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2565