แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับกรรมการ ผู้บริหารระดับสูงสุด และบุคคลที่อาจเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารระดับสูงสุด ของบริษัท
บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้บริหารระดับสูงสุด และบุคคลที่อาจเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารระดับสูงสุด ของบริษัท และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราจึงได้กำหนดแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ซึ่งอาจเกิดขึ้น ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อเรา ดังต่อไปนี้
1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้บริหารระดับสูงสุด และบุคคลที่อาจเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารระดับสูงสุด ของบริษัท บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1.1
เพื่อดำเนินการที่จำเป็นในการพิจารณาและคัดเลือกกรรมการบริษัท หรือผู้บริหารระดับสูงสุด ซึ่งหมายความรวมถึงขั้นตอนการประเมินคัดเลือก และแต่งตั้ง รวมถึงกระบวนการบริหารงานภายในอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคัดเลือกและแต่งตั้งให้เป็นกรรมการ หรือผู้บริหารระดับสูงสุด
การปฏิบัติตามสัญญา
(Contractual Basis)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
1.2
เพื่อการดำเนินการต่าง ๆ ระหว่างท่านกับบริษัท รวมถึงการดำเนินการต่าง ๆ ในกรณีที่ท่านเป็นผู้แทนหรือกระทำการในนามของของบริษัท เช่น
• การจ่ายค่าตอบแทนให้แก่กรรมการบริษัท หรือผู้บริหารระดับสูงสุด รวมถึงการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายค่าตอบแทน
• การจัดทำและเก็บข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงข้อมูลประวัติกรรมการบริษัท หรือผู้บริหารระดับสูงสุด เพื่อเป็นฐานข้อมูลของบริษัท
• การส่งเอกสาร ระเบียบวาระการประชุม
• การเปิดเผยข้อมูลผ่านเว็บไซต์บริษัท และ/หรือการส่งให้หน่วยงานภายนอกเพื่อประกอบการสมัครเรียนหลักสูตรต่าง ๆ การรับรางวัล หรือกิจกรรมอื่นใดซึ่งท่านเข้าร่วมในฐานะกรรมการบริษัท หรือผู้บริหารระดับสูงสุดของบริษัท
• การเปิดเผยข้อมูล เช่น ประวัติ ชื่อ-นามสกุล ข้อมูลการถือหลักทรัพย์ อายุ การศึกษา ประวัติการทำงาน และการดำรงตำแหน่งกรรมการ เป็นต้น ผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโฆษณา สื่ออิเล็กทรอนิกส์และเว็บไซต์ เป็นต้น ให้กับบุคคลภายนอกได้รับทราบ
• การเก็บ ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการบริษัท ผู้บริหารระดับสูงสุดของบริษัท เพื่อการดำเนินกิจการและบริหารจัดการธุรกิจของบริษัท รวมถึงเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมของบริษัท
• การเปิดเผยข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล (KYC) ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับธนาคารทั้งในประเทศและต่างประเทศ
• การเปิดเผยและรายงานข้อมูลของกรรมการ ผู้บริหารระดับสูงให้กับหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
• การตรวจสอบข้อมูลการมีส่วนได้เสียของกรรมการ ผู้บริหารระดับสูงสุดและบุคคลที่เกี่ยวข้องของกรรมการและผู้บริหารระดับสูงสุด รายการขัดแย้งทางผลประโยชน์ของบริษัท เพื่อเก็บรวบรวมเป็นข้อมูล และรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น การถือครองหลักทรัพย์ การรายงาน strategic shareholder ให้กับหน่วยงานกำกับได้รับทราบ
• การเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามเกณฑ์การประเมินต่าง ๆ ที่บริษัทเข้าร่วม
การปฏิบัติตามสัญญา
(Contractual Basis)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
1.3
เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการสมัครเข้าใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือการเปิดสิทธิการเข้าถึงหรือใช้งานอินเตอร์เน็ตหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.4
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงกระบวนการแต่งตั้ง จดทะเบียนเปลี่ยนแปลง หรือการดำเนินการใด ๆ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
1.5
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามหมายศาล หนังสือ หรือคำสั่งของหน่วยงาน องค์กรอิสระ หรือเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียก หมายอายัด คำสั่งของศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ หน่วยงานราชการ รวมถึงการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ถือหุ้น หน่วยงานราชการ หรือองค์กรอิสระ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กระทรวงพลังงาน กรมสรรพากร กรมที่ดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
1.6
เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย\(Legitimate Interests)
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
1.7
เพื่อการเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง หน่วยงาน และภาพถ่าย-ภาพเคลื่อนไหว ในกรณีที่ท่านเข้าร่วมการประชุม กิจกรรมหรือดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมลภายใน บริษัท และบริษัทในกลุ่ม เว็บไซต์ของบริษัท Facebook LINE YouTube หรือสื่อออนไลน์อื่น ๆ ของบริษัท หรือสื่ออื่น ๆ เช่น โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ เป็นต้น
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.8
เพื่อดำเนินการวางแผน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุรกิจ การสำรวจความคิดเห็น การปรับปรุงการดำเนินงาน การบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ รวมถึงการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน และการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงเพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานภายในบริษัท ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินของหน่วยงานบัญชีการเงินบริษัท
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.9
เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท และการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย รวมถึงการติดต่อขอออกบัตรเพื่อเข้าปฏิบัติงานในสถานที่ของบริษัท การแลกบัตรเข้าออกอาคาร การขอสติกเกอร์ติดรถยนต์ การบันทึกข้อมูลการเข้าออกสถานที่ของบริษัท และการบันทึกภาพภายในอาคารหรือสำนักงานของบริษัท หรือสาขาของบริษัท ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.10
เพื่อการบริหารจัดการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของท่าน
การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพบุคคล
(Vital Interests)
1.11
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
ในบางกรณีเราอาจมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลในครอบครัว หรือบุคคลอื่น ซึ่งกรรมการ ผู้บริหารระดับสูงสุด และบุคคลที่อาจเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารระดับสูงสุดของบริษัทได้ให้ข้อมูลไว้ ทั้งนี้ บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของบุคคลเหล่านั้น โดยอาศัยฐานทางกฎหมายต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ข้อที่
วัตถุประสงค์
ฐานทางกฎหมาย
1.12
เพื่อการติดต่อสื่อสารในกรณีจำเป็น หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.13
เพื่อการตรวจสอบข้อมูลการมีส่วนได้เสียของกรรมการ ผู้บริหารระดับสูงสุดและบุคคลที่เกี่ยวข้องของกรรมการและผู้บริหารระดับสูงสุด รายการขัดแย้งทางผลประโยชน์ของบริษัท เพื่อเก็บรวบรวมเป็นข้อมูล และรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น การถือครองหลักทรัพย์ การรายงาน strategic shareholder ให้กับหน่วยงานกำกับได้รับทราบ
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่า การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้บริหารระดับสูงสุด และบุคคลที่อาจเป็นกรรมการ ผู้หรือบริหารระดับสูงสุด ของบริษัท บริษัทอาศัยฐานทางกฎหมายประการต่าง ๆ ตามที่แจ้งไว้นี้ โดยไม่ได้อาศัยความยินยอม แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณีที่เราไม่อาจใช้ฐานทางกฎหมายเหล่านี้ได้ เช่น กรณีที่กฎหมายกำหนดให้จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน (Sensitive data) เป็นต้น ในกรณีเช่นนั้น บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน (โปรดอ่านเอกสารขอความยินยอมของเราเพิ่มเติมจากเอกสารนี้) และในกรณีที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้บริหารระดับสูงสุด และบุคคลที่อาจเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารระดับสูงสุด ของบริษัท ได้ให้ข้อมูลอื่น ๆ ของบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอื่นแก่เรานั้น ท่านจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ/หรือดำเนินการขอความยินยอม (หากจำเป็น)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัท ในการปฏิบัติตามสัญญาหรือการปฏิบัติตามคำขอของท่านก่อนการทำสัญญา หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคัดเลือกท่านได้
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
โดยทั่วไปแล้ว ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยการขอหรือสอบถามข้อมูลเหล่านั้นจากท่านเองโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี บริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น หน่วยงานต้นสังกัดของท่าน เลขานุการหรือผู้ประสานงานแทนของท่าน หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานของรัฐ หรือแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งเปิดเผยสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
(1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส ลายมือชื่อ ภาพถ่าย
(2) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล
(3) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เงินเดือน
(4) ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ประวัติการทำงานและการศึกษารวมถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สถานภาพการเกณฑ์ทหาร ข้อมูลบุคคลอ้างอิง สมาชิกในครอบครัว
(5) ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะ
(6) ข้อมูลการบันทึกภาพหรือเสียงระหว่างการปฏิบัติงาน เช่น การบันทึกภาพโดยกล้องวงจรปิด
(7) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ เช่น การบันทึกภาพนิ่ง หรือวิดีโอ
(8) ข้อมูลการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัท ของกรรมการ ผู้บริหารระดับสูงสุด และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการและผู้บริหารระดับสูงสุด
(9) ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ของบริษัท รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน Application ข้อมูลในการเข้าชมเว็บไซต์ (Browsing Information) เช่น ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลที่อยู่ IP (IP Address) เป็นต้น
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
บริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ ในกรณีที่ท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บริษัท ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัท ดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ บริษัทจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากบริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เพื่อวัตถุประสงค์ใดที่บริษัทไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายในการประมวลผลได้ บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน ทั้งนี้ บริษัทอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนี้
(1) ข้อมูลศาสนา
(2) ประวัติอาชญากรรม
(3) ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูลการแพ้อาหาร ข้อมูลการแพ้ยา หมู่โลหิต
3. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กร
4. การเปิดเผยข้อมูล
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้
4.1 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ศาล ตำรวจ
4.2 ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใด ๆ ให้แก่บริษัท เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ ที่ปรึกษากฎหมาย
4.3 ธนาคารที่บริษัทมีการทำธุรกรรมทางการเงิน การลงทุน ทั้งธนาคารในประเทศ และต่างประเทศ
4.4 บุคคลภายนอกอื่น ๆ เช่น การเปิดเผยข้อมูลผ่านเว็บไซต์ การประชาสัมพันธ์ภาพกิจกรรม หรือข่าวสารการทำกิจกรรมหรือโครงการของบริษัท ไปยังสื่อมวลชนและบุคคลภายนอก เป็นต้น
5. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่บริษัท กำหนดในข้อ 7. หรือผ่านเว็บไซต์ของบริษัท โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับบริษัท ซึ่งสิทธิต่าง ๆ ของท่านมีรายละเอียด ดังนี้
5.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
ในกรณีที่บริษัท ขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
5.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทรวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้
5.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัท ได้ตามที่กฎหมายกำหนด
5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
5.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น บริษัทจะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
5.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด
5.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Rectification Right)
กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่ บริษัทมีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
6. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งฉบับนี้
เราอาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น เราจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมล ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านเราจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
7. วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัท ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ : 13/1 หมู่ 2 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2763 7999
E – Mail : compliance@gc.co.th
ประกาศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2565