แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (Privacy Notice)
สำหรับผู้เข้าร่วมการอบรม สัมมนา
การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ
บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราจึงได้กำหนดแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะบุคคลภายนอกผู้เข้าร่วมการอบรม สัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ กับบริษัท ทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ซึ่งอาจเกิดขึ้น ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อเรา ดังต่อไปนี้
1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ในการเข้าร่วมการอบรม สัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งบริษัทได้จัดขึ้นนั้น อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ โดยอาศัยฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้
1.1
เพื่อดำเนินการที่จำเป็นในการพิจารณาและคัดเลือกผู้สมัครเข้าร่วมงานอบรม งานสัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ของบริษัท ซึ่งหมายความรวมถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์ ขั้นตอนการประเมินคัดเลือก และกระบวนการบริหารงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาและคัดเลือกเข้าร่วมงานอบรม งานสัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ของบริษัท
การปฏิบัติตามสัญญา
(Contractual Basis)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.2
เพื่อการจัดเตรียมงานอบรม งานสัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ให้มีความเหมาะสม และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่าน เช่น การวิเคราะห์และจัดรูปแบบกิจกรรม การจัดหาสถานที่ การจัดหาอาหารและเครื่องดื่ม การจัดหาห้องพัก การจัดเตรียมของชำร่วย รวมถึงการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เป็นต้น
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.3
เพื่อตรวจสอบจำนวนผู้เข้าร่วมงานอบรม งานสัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ การลงทะเบียนเข้าร่วมงาน การจัดทำทะเบียนและประวัติการร่วมกิจกรรมของผู้เข้าร่วมงาน การดำเนินกิจกรรม รวมถึงแจกของที่ระลึก ของรางวัล (ถ้ามี)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.4
เพื่อแจ้งรายละเอียดการเข้าร่วมงานอบรม งานสัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ เช่น รายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม วัน เวลา สถานที่ เป็นต้น
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.5
เพื่อการดำเนินการจัดทำประกันภัยที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดกิจกรรม เช่น การจัดทำประกันการเดินทางแบบกลุ่ม เป็นต้น (ถ้ามี)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.6
เพื่อการประเมิน วิเคราะห์ และปรับปรุงการจัดงานอบรม งานสัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ของบริษัท รวมทั้งเพื่อประกอบการขอรับรองมาตรฐานระบบการจัดการ และอาจมีการใช้ภาพถ่ายบรรยากาศการจัดงานเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการตอบแบบประเมินของหน่วยงานกำกับดูแล หรือการยื่นขอรับรางวัล หรือการประกวดต่าง ๆ เกี่ยวกับการบริหารจัดการองค์กร
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.7
เพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติงาน รวมถึงเพื่อการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน การปิดค่าใช้จ่าย และการบริหารจัดการภายในองค์กร
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.8
เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคาร สถานที่จัดกิจกรรมของบริษัท ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV)
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.9
เพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ของบริษัท และ/หรือใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารความสัมพันธ์ หรือการติดต่อประสานงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท รวมถึงการสำรวจความคิดเห็น เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัท
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย(Legitimate Interests)
1.10
บริษัท อาจมีการบันทึกภาพ หรือภาพเคลื่อนไหว หรือการถ่ายทอดสด เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์การจัดงานอบรม งานสัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งบริษัทได้จัดให้มีขึ้น (รวมถึงกรณีที่มีการจัดงานในรูปแบบออนไลน์) โดย บริษัทอาจมีการเผยแพร่ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว หรือการถ่ายทอดสดดังกล่าว ผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอกบริษัท เช่น ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ หรือเว็บไซต์ของบริษัท หรือผ่านทางหนังสือพิมพ์ หรือโทรทัศน์ เป็นต้น
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.11
เพื่อจัดทำสื่อให้ผู้เข้าร่วมงานอบรม งานสัมมนา หรือกิจกรรมนั้น ๆ สามารถศึกษาหรือเข้าชมย้อนหลัง หรือเพื่อจัดทำเป็นองค์ความรู้ของบริษัท
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
1.12
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ และเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง หรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย รวมไปถึงการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หน่วยงานกำกับดูแล บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด
ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
(Legitimate Interests)
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
1.13
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร
การปฏิบัติตามกฎหมาย
(Legal Obligation)
1.14
เพื่อการบริหารจัดการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยของท่าน
การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพบุคคล
(Vital Interests)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมเนื่องจากความจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าวบริษัท อาจไม่สามารถพิจารณาคัดเลือกให้ท่านเข้าร่วมงานอบรม งานสัมมนา หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น หรือไม่สามารถดำเนินการเพื่อการบริหารหรือจัดการสัญญา หรืออำนวยความสะดวกให้กับท่านได้
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
โดยทั่วไปแล้ว บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยการขอหรือสอบถามข้อมูลเหล่านั้นจากท่านเองโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น หน่วยงานราชการ หน่วยงานต้นสังกัดของท่าน หน่วยงานภายนอกซึ่งเป็นเจ้าของหลักสูตรอบรม แหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งเปิดเผยสาธารณะ เช่น ข้อมูลที่สืบค้นได้จากอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทอาจดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
(1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ สถานภาพการสมรส ลายมือชื่อ ภาพถ่าย รหัสพนักงาน (กรณีเป็นพนักงานบริษัท) เป็นต้น
(2) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล Facebook LINE ID เบอร์โทรศัพท์เลขานุการท่าน (หากมี) เป็นต้น
(3) ข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบการดำเนินชีวิตและสังคม (Lifestyle and social circumstance) เช่น งานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชอบ ความสนใจของท่าน
(4) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท เช่น การลงทะเบียน การบันทึกภาพนิ่ง หรือวิดีโอ หรือภาพเคลื่อนไหวในลักษณะอื่น เป็นต้น
(5) ข้อมูลการศึกษาและการอบรม เช่น ประวัติการศึกษา หลักสูตรที่เข้าอบรม
(6) ข้อมูลการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่งหน้าที่การงาน หน่วยงานที่สังกัด ประวัติการทำงาน กลุ่มระดับงาน อายุงาน อายุงานในกลุ่มระดับ
(7) ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็น ความคาดหวัง ความพึงพอใจในการเข้าร่วมงานอบรม งานสัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ การรับรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท
(8) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เพื่อการอำนวยความสะดวกตามจำเป็น เช่น ข้อมูลบัตรเครดิต ( อาทิ หมายเลขบัตร ประเภทบัตร วันหมดอายุ) เที่ยวบิน ขนาดเสื้อ อาหารหรือเครื่องดื่มที่ทาน เป็นต้น
(9) ข้อมูลคะแนนและผลการทำแบบทดสอบ
(10) ข้อมูลการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคระบาด
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
ในการจัดงานอบรม งานสัมมนา การศึกษาดูงาน กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่น ๆ บริษัทอาจขอให้ท่านให้ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนบางประการ เช่น ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับความพิการ ข้อมูลศาสนา ข้อมูลการแพ้อาหาร เป็นต้น ทั้งนี้ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านก่อนเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนดังกล่าว
กรณีสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ศาสนา และหมู่โลหิต รวมอยู่ด้วยนั้น โดยทั่วไปแล้ว บริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บริษัท ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้ บริษัทดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หาก บริษัทไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ บริษัทจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
3. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในแบบแจ้งฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่ บริษัทยังมีความสัมพันธ์กับท่านในฐานะใดฐานะหนึ่ง เช่น คู่ค้า ลูกค้า ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานภาครัฐหรือในหน่วยงานกำกับดูแล หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นของบริษัท เป็นต้น และหรือระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กร
4. การเปิดเผยข้อมูล
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้
4.1 หน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น ศาล อัยการ ตำรวจ เป็นต้น
4.2 ตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัย และ/หรือ บริษัทประกันภัย
4.3 ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใด ๆ ให้แก่บริษัท เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง บริษัทรับจ้างทำกิจกรรมทางการตลาด ผู้รับจ้างผลิตสื่อ ผู้รับจ้างประชาสัมพันธ์ ผู้รับจ้างจัดกิจกรรม ผู้รับจ้างดำเนินการจัดงาน (Organizer) ผู้รับจ้างจัดหาที่พักและการเดินทาง วิทยากร สถาบันฝึกอบรม เป็นต้น
4.4 สถาบันให้การรับรองมาตรฐานระบบการจัดการ
4.5 บุคคลทั่วไป (เฉพาะเพื่อการประชาสัมพันธ์ภาพการจัดงาน หรือการประกาศรายชื่อผู้ชนะการประกวด การเล่นเกมชิงรางวัล) ผ่านทางสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ทั้งของบริษัท และภายนอก เช่น e-mail PR ภายใน, FB, Line, Twitter, YouTube, website, สื่อมวลชน เช่น หนังสือพิมพ์ และ TV เป็นต้น
5. การส่งหรือเปิดเผยข้อมูลไปต่างประเทศ
ในบางกรณี เพื่อประโยชน์หรือความจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้แจ้งไว้ในข้างต้นนั้น บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างไปจากประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทอาจมีการเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ของผู้ให้บริการที่อยู่ต่างประเทศ และอาจมีการประมวลผลข้อมูลโดยใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันสำเร็จรูปของผู้ให้บริการในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวดังกล่าวไม่ว่ากรณีใด ๆ บริษัทจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
6. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่ บริษัทกำหนดในข้อ 8. หรือผ่านเว็บไซต์ของบริษัท โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับบริษัท ซึ่งสิทธิต่าง ๆ ของท่านมีรายละเอียด ดังนี้
6.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
ในกรณีที่ บริษัทขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
6.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้
6.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทได้ตามที่กฎหมายกำหนด
6.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
6.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น บริษัทจะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
6.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด
6.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Rectification Right)
กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่ บริษัทมีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้ บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
6.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หาก บริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
7. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งฉบับนี้
บริษัทอาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น เราจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมล ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านเราจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
8. วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ : 13/1 หมู่ 2 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2763 7999
E – Mail : compliance@gc.co.th
ประกาศ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2565